ต้องเขียนบทความเรื่องนี้อีก เพราะ ต้องยอมรับ ว่ากระแสมาแรงมาก เหมือนจตุคามที่ฮิตมากในอดีตเกือบทุกคนที่เมื่อ พูดคุยเรื่องการยกกระชับหน้า จะต้องพูดถึงเรื่อง ร้อยไหมละลายกันทุกคน ยืนยันว่าทุกคนเมื่อได้พูดคุยมาก ก็มีคำถามมาก
เมื่อมีคำถามมาก ก็ค้นคว้ามาก เลยรู้เพิ่มขึ้นเพื่อมาแลกเปลี่ยนกัน
คำถามที่เพิ่มเข้ามาเรื่อง ร้อยไหมละลายคือ
คำถาม ทำไมการเย็บแผลต้องผูกปม ทุกครั้ง แม้เมื่อใส่ไหมละลายแล้ว ?
คำตอบคือ มันเลื่อนได้ และถูกดันได้ มีพยาบาลหลายๆคน ที่ยืนยันว่า แผลที่มีไหมละลายผูกปมไม่ดี เส้นไหมจะเลื่อน เคลื่อนตัวได้ และ เมื่อเคลื่อนไปอยู่ในที่ที่อาจจะมี แบคทีเรีย ก่อตัวได้ง่าย ก็จะมีโอกาสเกิดเป็นหนองขึ้นได้ ดังนั้น ต้องผูกปมไว้เสมอ
คำถาม ไหมจะละลายได้ ทันก่อนถูกดันเลื่อนตัวหรือไม่ ?
คำตอบ ชัดเจนอยู่แล้ว ว่า การดันให้ไหมเคลื่อนตัว จะถูกกระทำได้ง่ายกว่าการละลาย เพราะ หากละลายก่อนเคลื่อนตัว คงไม่ต้องผูกปม
คำถาม หากนำมาร้อยที่หน้า มัน จะถูกดันไปทางใด?
คำตอบ จะถูกดันลงในส่วนที่หย่อยคล้อยที่สุดและบางที่สุด คือ ลงมาด้านล่างและที่ร่องแก้ม เหมือนในอดีตที่มีการฉีดซิลิโคน
คำถาม ไหมที่ถูกดัน ให้เคลื่อนตัว ทั้งสองข้างจะเหมือนกันหรือไม่ ?
คำตอบ ไม่น่าจะเหมือนกัน แต่หากฝีมือแพทย์ดีมากๆ อาจะจะเคลื่อนลงมาทั้งสองข้างคล้ายๆกัน
คำถาม จะมีใครกลับไปทำซ้ำหรือไม่?
คำตอบไม่น่าจะมี แต่อาจจะเป็นการทำเสริม หากไม่ปล่อยไว้จนเกินไป และไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จึงอาจจะมีการทำซ้ำบ้างในบางกรณี
คำถาม ดังนั้นทำไมถึงดังมาก?
คำตอบ เพราะ เข้าถึงง่าย หลายๆฝ่ายยังไม่เห็นผลเสีย
คำถาม นิยมในเกาหลี โดยแพทย์ท่านหนึ่งเป็นผู้ค้นคิด ?
คำตอบ เป็นเพียงคำบอกเล่า ไม่ได้มีการติดตามผลและตีพิมพ์ในเอกสารวิชาการจริงๆ อย่าลืมว่า เรื่องโคลนนิ่งมนุษย์ ที่ภายหลังกลับตาลปัตร ว่า ไม่จริงก็มาจากหมอเกาหลีเหมือนกัน เขาชื่อ Hwang Woo Suk และได้ถูกตั้งข้อหาว่าหลอกลวง เมื่อ May 12, 2006 และถูกตัดสินว่าผิดจริงเมื่อ October 26, 2009
ประโยคเด็ดที่ทำให้เราได้คิด
คุณจะโดด Bungee Jump โดยไม่ผูกปมเชือกไหม ?
จะเห็นว่า เรากำลังวิ่งกระโดดกันเป็นแถวเพราะคิดว่า ไหมจะตึงอยู่จนถึงพื้นได้เพราะเป็นไหมจากเกาหลี
โชคดีนะครับ ตอนนี้ยังไม่ถึงพื้น เดี๋ยวรอถึงพื้นแล้ว ก็รู้