Call Center 086 883 0777
Email: contact@netanart.com

 

<< บทความทั้งหมด

สะเก็ดเงินไม่ใช่โรคทางพันธุกรรม

      ทุกครั้งที่ผมได้พบคนไข้ใหม่ที่เป็นสะเก็ดเงิน จะมีคำถามหลากหลายที่มักจะเป็นคำถามซ้ำๆคือ
    1.    ติดต่อหรือไม่
    2.    เป็นพันธุกรรมหรือไม่
    3.    เกิดจากอะไร
    4.    จะรักษาอย่างไร
    5.    ทำไมยิ่งรักษาแล้วยิ่งแย่ลง (รักษามาจากที่อื่น)
ห้าคำถามนี้เป็นต้องถามทุกคน สำหรับคำถามที่ 5 ผมได้ตอบโดยเขียนบทความไปแล้ว และดูเหมือนจะเป็นที่นิยมอ่านกันพอสมควรสำหรับบทความนี้จะรวบยอดตอบทั้ง 4 คำถามที่เหลือเลยทีเดียว สะเก็ดเงินเกิดจากอะไร หากจะหาคำตอบนี้ในคำสัมภาษณ์ที่มีอยู่ดาษดื่นทั้วไป ก็จะไม่พ้นเรื่องต่างๆเช่น เซลล์แบ่งตัวเร็วผิดปกติบ้าง เป็นเรื่องภูมิแพ้ตัวเองหรือภูมิเพี้ยนบ้างและที่บ่อยที่สุดคือ เป็นเรื่องของพันธุกรรม

สำหรับผมคำตอบคือโรคสะเก็ดเงินเป็นเพียงการที่ผิวเกิดอาการระคายเคืองขึ้นมาไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง แล้วเราไปได้รับการดูแลที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันคือการทาสเตียรอยด์ที่เป็นตัวการทำให้ผิวเกิดอ่อนแออย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดอาการระคายเคืองจากสิ่งแวดล้อมที่มีมลภาวะมากกว่าในอดีต ได้ง่ายขึ้นไปอีก การระคายเคืองซ้ำเฉพาะที่อยู่บ่อยๆประกอบกับการตอบสนองของผิวหนังที่มีการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างเฉพาะที่เรียกว่า papillomatosis ทำให้เกิดรอยโรคที่เราเรียกว่า สะเก็ดเงิน ไม่มีเรื่องพันธุกรรมเข้ามาเกี่ยวเลย

สังเกตได้ว่า คนไข้ส่วนใหญ่จะบอกว่า เกิดจากการไปช่วยเขาดำนาแล้วระคายเคืองแล้วได้รับการรักษาแบบผิวอักเสบบ้าง ภูมิแพ้บ้าง ในที่สุดคำวินิจฉัยก็เปลี่ยนเป็น สะเก็ดเงิน ญาติผู้ใหญ่ไม่ว่าข้างไหนก็ตามไม่เคยเป็นกัน แต่ผมก็ไม่ปฎิเสธที่จะบอกว่ามีบ้างครั้ง (น้อยครั้งมาก)ที่มีฝาแฝดเป็น สะเก็ดเงินพร้อมกันและเหมือนกัน (แต่แบบนี้เป็นข้อยกเว้นพบได้น้อยครั้งมาก) การไม่ผูกพันกับเรื่องพันธุกรรมเป็นประโยชน์มากกว่า การไปผูกปมอย่างนั้น เพราะ การผูกกับพฤฒิกรรมสามารถนำไปสู่การจัดการ การระวังที่มีวินัยขึ้นและทำให้หายจากโรคได้ค่อนข้างถาวร ส่วนเรื่องการลุกลามนั้นเป็นเรื่องของการรักษาที่ผิด ทั้งการให้ยาทาสเตียรอยด์และการที่แพทย์ไม่ทำหน้าที่ แนะนำหรือ coach ให้ผู้ป่วยมีพฤฒิกรรมที่เหมาะสมหลีกเลี่ยงพฤฒิกรรมเสี่ยงอื่นๆที่ทำซ้ำอยู่เป็นประจำ

เมื่อเป็นเช่นนั้นปัญหาจึงลุกลาม เพราะการระคายเคืองของผิวหนังนั้นไม่มีข้อจำกัดสามารถกระจายได้ทั่วตัวอยู่แล้ว เมื่อหยิบยื่นยาสเตียรอยด์ให้ทากันง่ายๆไม่ควบคุม โอกาสของการเสียสมดุลของผิวรอยสะเก็ดเงินก็ย่อมต้องกระจายทั่วตัวอย่างแน่นอน เมื่อเข้าใจดังนี้แล้วก็จะเห็นว่า โรคสะเก็ดเงินนี้ไม่มีเรื่องเชื้อโรคใดๆเป็นต้นเหตุ (อาจจะมีประกอบเพราะเป็นแผลในภายหลังเท่านั้น) จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องการติดต่อแต่อย่างใด
        

ส่วนคำถามว่าจะรักษาอย่างไร นั้น ที่เข้าใจกันว่าการรักษาสะเก็ดเงินนั้นเป็นเรื่องยาก ขอเรียนว่าไม่เป็นความจริงเลย หากหยุดการทาสเตียรอยด์แล้ว บางครั้งหากไม่เป็นมากก็หายเองได้ หรือหากไปรักษาโดยใช้สมุนไพร แรกๆจะเห็นว่ามีอาการเห่อ ทำให้ต่างก็เข้าใจกันว่าเกิดจากการที่สมุนไพรกระทุ้งโรคให้ออกมา แต่ความเป็นจริงคือ เห่อจากการหยุดยาทาสเตียรอยด์นั่นเอง การรักษาที่อาจจะทำให้หายเร็วขึ้นและถึงกับหายขาด คือ การใช้แสงเลเซอร์ช่วย ที่ต้องใช้ทั้งแสง 595 nm และ 308 nm ควบคู่กัน ดังที่แสดงใน หนัง animation เพราะเป็นทางเดียวที่สามารถปรับการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างได้ค่อนข้างจะสมบูรณืกว่าวิธีอื่นๆ


หวังว่าผู้ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง โรคสะเก็ดเงินจะได้ปรับเปลี่ยนเพิ่มพูนความรู้ให้ทันสมัยขึ้น เพราะการให้สัมภาษณ์เหมือนเลคเชอร์ นักเรียนแพทย์ซ้ำๆ ที่มีอยู่เกลื่อนใน internet นั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรต่อ ผู้ที่กำลังป่วยเป็นโรคนี้อยู่เลยจริงๆ


 

<< บทความทั้งหมด

ดุลแห่งชีวิตเพื่อผิวพรรณและเส้นผม
ผม มงกุฎแห่งความสง่างาม
คุยกับ นพ สมนึก อมรสิริพาณิชย์ เรื่อง ฝีใต้รักแร้
คุยกับ นพ.สมนึก อมรสิริพาณิชย์ เรื่อง เหงื่อชุมมือ และ รักแร้
คุยกับ นพ.สมนึก อมรสิริพาณิชย์ เรื่อง ทำไมสิวถึงเกิดซ้ำที่เดิม
คุยกับ นพ.สมนึก อมรสิริพาณิชย์ เรื่อง หูดบนหนังศรีษะ
3 คุยกับ นพ.สมนึก อมรสิริพาณิชย์ เรื่องเล็บพังรักษาได้
คุยกับ นพ.สมนึก อมรสิริพาณิชย์ เรื่องฉีดวันซีน Covid-19 ให้ปลอดภัย
  บริการ
ผลิตภัณฑ์
ตารางแพทย์
ความรู้/บทความทางการแพทย
ติดต่อนีตนาท
© 2019 Netanart Clinic