ปัจจุบันเราเน้นชื่อโรค ชื่อเครื่องมือ จนเกินไป เหมือนเน้น สี ว่าคุณ สีแดง หรือสีเหลือง เมื่อไปฝั่งใจกับชื่อ ความทรงจำ และ ความคิด อารมณ์ ก็ไปยึดติด ยากที่จะเปิดใจฟังเรื่องใหม่ๆ ที่นำไปสู่ การแก้ปัญหาที่ดีกว่าเดิมได้เมื่อวันที่ 24 พย. 2555 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง หน่วยผิวหนังหรือหน่วยเวชศาสตร์ ชลอวัย ได้เปิดอบรมเรื่อง สะเก็ดเงิน ผมได้ฟังเทปที่คนเอามาให้ฟังว่าเนื้อหาที่บรรยายเป็นเช่นไรบ้าง พบว่ายังเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับเรื่องสะเก็ดเงินหลายประการ
1. เน้นเรื่องเทคโนโลยี ว่า เครื่องexcimer laser ดีกว่าปลอดภัยกว่า เป็นเครื่องรุ่นใหม่ดูแลง่าย
2. เน้นเรื่อง ให้ผู้ป่วย หาเอาเองว่า อะไรเป็นเหตุให้สะเก็ดเงิน เกิดเป็นขึ้นมาอีก หรือลุกลาม โดยใช้คำหวานหูว่า คนไข้เป็นหมอที่เก่งที่สุด ต้องรู้เอง เป็นการโยนความรับผิดชอบไปที่ผู้ป่วย
3. ไม่มีกระบวนการความคิดใหม่เกี่ยวกับสะเก็ดเงินใดๆ ทำให้ไม่ฟันธง ว่า ห้ามใช้เตียรอยด์ ความจริงก็คือสเตียรอยด์เป็นต้นเหตุของการลุกลามของสะเก็ดเงิน เพราะทำให้ผิวอ่อนแอ สามารถเกิดการระคายเคืองง่ายขึ้น และหากไม่หยุดทาสเตียรอยด์ แม้จะใช้แสงเลเซอร์ excimer 308 Pharos ก็จะไม่มีทางดีขึ้นคุ้มกับค่าใช้จ่ายที่ลงทุนไป หากยังดื้อใช้ สเตียรอยด์ควบคู่กันไปกับการใช้ excimer laser จะเกิดผลเสียสี่ประการ
1. เสียดายเงินภาษีราษฎรที่นำมาซื้อเครื่องเลเซอร์นี้
2. เสียดายว่า เครื่องนี้จะเสียชื่อ บริษัทผู้ผลิตและผู้ขายจะเสียหายเพราะหมอที่นำไปใช้ไม่มีความรู้พอ
3. เสียเงินและเวลาสำหรับคนไข้ที่คาดหวังกับการรักษาที่น่าจะดีกว่าเดิม
4. หมอที่มีความตั้งใจจะช่วยผู้ป่วยก็จะได้รับการสอนที่ผิดๆต่อไป หากต้องเสียเงินไปเรียนก็ยิ่งแย่ใหญ่
ความจริงอีกข้อหนึ่งก็คือ การใช้แสง Excimer laser อย่างเดียวไม่พอ ต้องประกอบกับการใช้แสง Pulse dye laser ช่วยด้วยเพื่อจัดการกับเส้นเลือด ที่เป็นตัวการสำคัญในการเกิด papillomatosis ในการบรรยายนั้น ผู้บรรยายไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้เลย นอกจากนั้นในกรณีที่มีการลุกลามมากอาจต้องใช้ยากินควบคู่ไปด้วยความจริงที่ต้องนำเสนอในบทความสั้นๆนี้ยังมีอีกข้อหนึ่งคือ สะเก็ดเงินในแต่ละตำแหน่งมีที่มาที่ไป การที่แพทย์สามารถวินิจฉัยว่าเกิดจากพฤติกรรมใด จะสามารถให้คำแนะนำให้ คนป่วยตระหนักและหลีกเลี่ยงได้ แพทย์ต้องเป็น coach เป็นครู หากแพทย์ให้แต่ผู้ป่วยคิดเองหาเอง นั่นแปลว่า แพทย์ท่านนั้นไม่มีความคิดใดๆ หรือไม่ก็ขี้เกียจคิด หากจะมีความคิดกระบวนความคิด ก็ต้องมีข้อมูลมาก กล่าวคือ ต้องลงมือยิงเลเซอร์เอง ทุกราย ทุกรอย เมื่อเป็นเช่นนั้น จะเหมือนครูช่างที่ดูรอยแตก รอยบิ่น รอยตะปู รอยฉาบ มาเป็นหมื่นเป็นแสนครั้ง ย่อมทราบดีว่า มันเกิดจากอะไร และแนะนำป้องกันได้ การหวังว่ามีเครื่องมือดีขึ้นอย่างเดียวไม่สามารถทำอะไรได้หรอกครับ เพราะเดี๋ยวก็มีคนซื้อมาใช้ได้เหมือนกัน นานวันเข้าเครื่องดีก็เป็นไม่ดีเพราะได้แต่ใช้เครื่องมือ แต่ความเป็นแพทย์สูญหายไปทีละน้อยจนหมด
หวังว่าทางมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จะได้ตระหนักคำติชมนี้และให้ถือว่าติเพื่อก่อ ก่อนที่จะได้เริ่มงานวิจัยหรือให้การบริการใดๆ เพราะ ผมได้ดูแลโรคสะเก็ดเงินด้วยเครื่องเลเซอร์ตัวนี้มากว่า 16 เดือน Dr. Dean ที่เป็นผู้ผลิตเครื่องนี้ได้ถือโอกาสมาเยี่ยมผมในช่วงที่ส่งเครื่องให้กับทางมหาวิทยาลัยของท่าน และประหลาดใจพร้อมยืนยันว่าผมใช้เครื่องนี้มากในระดับ top 5 ของโลก โดยเฉพาะที่อื่นนั้นเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกมีผู้ใช้หลายๆคนต่อเครื่อง แต่ของผมเป็นเพียงคลินิกธรรมดาและใช้เพียงคนเดียวเท่านั้น
ก็แปลกที่เรามีประสบการณ์มากมายในเมืองไทยมากว่า 16 เดือน แต่ท่านกลับไม่ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ จึงเฝ้าแต่เสียดายที่ไม่ได้ไปแชร์ความรู้ด้วย ทั้งที่รู้จักกันดีหากเพียงแต่มีหนังสือเชิญมาก็จะไปแน่นอน แต่ในเมื่อท่านไม่ให้ความสำคัญกับข้อมูลที่มีในประเทศไทย ผมจึงต้องท้วงมาเพราะความเป็นห่วง สุดท้ายขอให้ทางมหาวิทยาลัย ฯ ประสบความสำเร็จดังมุ่งหวังในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่ป่วยเรื้อรังจากโรคสะเก็ดเงิน และมีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความสามารถมีจิตใจต้องการช่วยเหลือประชาชนจริงๆ และอยู่รับใช้ประชาชนตลอดไป