ผมร่วงเป็นหย่อมต่างกับ DLE

     มีคนไข้หลายรายที่มาหาผมที่นีตนาทคลินิก และได้รับคำวินิจฉัยว่าเป็น DLE บนหนังศีรษะ แต่ความจริงเป็นเพียง โรคผมร่วงเป็นหย่อมที่รักษาผิดวิธีทำให้ไม่หายและ เรื้อรัง

 

การแบ่งแยกว่าไม่ใช่ DLE ทำได้คือ

 

     1. DLE จะต้องมีรักษาเป็นแผล คือ มีการเปลี่ยนแปลงของสีผิว บนหนังศีรษะ เช่น  ดำ หรือ ขาว

     2. DLE  จะต้อง มีขุยหรือ สะเก็ดเป็นแผ่น เหมือนแผลกำลังแห้ง บางครั้งขุยสะสมในช่องปากโพรงขน ทำให้เหมือนว่าเส้นผมดันออกมาจากรูที่สกปรก หรือเหมือนผมของตุ๊กตา

     3. DLE จะมีผิวบางเห็นเส้นเลือด แดงไปทั่ว

     4. DLE  หากจะมีเส้นผมจะเป็นเส้นอ่อนเสมอกัน เป็นขนนุ่มๆ ยาวเหมือนหญ้าในทะเลทราย แต่ไม่ดำ หรือ ถ้าดำจะเป็นเส้นผมแข็งแรงโด่เด่ อยู่กลางทะเลทราย มีไม่กี่เส้น

     5. DLE จะเป็นรอยเชื่อมต่อกันตลอด ไม่มีทางที่จะมีกอเส้นผมที่ดูเหมือนปกติ ขั้นกลาง ระหว่างรอยโรค

     6. DLE ตามผิวหนังนอกจากที่หนังศีรษะก็เป็นเช่นนี้ หากเทียบกับผมร่วงเป็นหย่อม ง่ายอย่างไร บนหนังศีรษะก็ง่ายอย่างนั้น

                                                                            

เมื่อการแบ่งง่ายอย่างนี้ แล้วทำไมจึงมีคนวินิจฉัยผิด คำตอบคือ

     1. รักษาผมร่วงเป็นหย่อมไม่เป็น ยิ่งรักษายิ่งลาม

     2. ใช้สเตียรอยด์ฉีด หรือยาทาที่ทำให้ผิวยุบ บุ๋ม ช้ำ ทำให้ดูคล้ายเป็นแผล

     3. เมื่อตัดชิ้นเนื้อ ตรวจ แผลเป็นที่เกิดจากการตัดชิ้นเนื้อก็ยิ่งทำให้การวินิจฉัยยิ่งสับสน

     4. ไม่ได้ตรวจชิ้นเนื้อ ด้วย Direct Immunofluorescene ใช้เพียงการทำ H&E และมี ความโน้มเอียงที่จะอ่านชิ้นเนื้อผิดเป็น DLE 

 

ภาพนี้คือ ตัวอย่างของคนไข้ที่ได้รับการวินิจฉัยผิด มา แรมปีว่าเป็น DLE 

 

อีกไม่นานเมื่อหายแล้วจะเอาภาพก่อนหลังมาเทียบให้ดู แต่คงใช้เวลานาน เพราะ รักษาผิดวิธีและตำแหน่งนี้รักษาหายช้ากว่าที่อื่น เหตุที่รีบเขียนเพราะ เศร้าใจกับเหตุผิดพลาด เพราะ ผมเริ่มพบบ่อยมากขึ้น กรณีนี้ ได้หมอที่มีชื่อเสียงดูแล และตัดชิ้นเนื้อแล้ว แต่ผมเชื่อว่า วินิจฉัยผิดแน่นอน คนไข้เป็นผมร่วงเป็นหย่อมครับ

 

ดุลแห่งชีวิตเพื่อผิวพรรณและเส้นผม

ผม มงกุฎแห่งความสง่างาม