<< บทความทั้งหมด
AIG เจ๊ง สอนอะไรพวกเราบ้าง
เช้าวันนี้ผมเห็นข่าวพาดหัวในหนังสือพิมพ์ International Herald Tribune ที่ผมอ่านทุกเช้า ว่า รัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกาอัดฉีดเงินก้อนใหญ่ 3 หมื่นล้านดอลล่าห์สหรัฐให้กับ สถาบันที่ใหญ่ทีสุดและเข้มแข็งที่สุดของอเมริกา คือ AIG ( American International Group)เพราะบริษัทนี้บริหารทำให้เกิดความเสียหายขาดทุนเกือบ 6 หมื่นสองพันล้านเหรียญสหรัฐ เฉพาะในQuarter ที่ผ่านมา หากเทียบในเวลาเดียวกันกับปีที่แล้วขาดทุนเพิ่มมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า คือ จากราคาหุ้นที่ตกลง 2 เหรียญ กับ 8 เซ็นต์ เป็นการขาดทุนราคาต่อหุ้นเท่ากับ เกือบ 30 เหรียญ หากขาดทุนเพิ่มอีกเพียง 5 เซ็นต์ ถ้านับทั้งปีที่ผ่านมาทั้งหมด ไม่ใช่ขาดทุนเพียง กว่า 6 หมื่นล้านเหรียญ แต่เป็น 9 หมื่น เก้าพันสามร้อยล้านเหรียญ หรือ ประมาณ เกือบเท่ากับ 3.5 ล้านล้านบาท มากกว่า งบประมาณของประเทศไทยทั้งปี
เงินที่อัดฉีดนี้ไม่ใช่เงินก้อนแรก เพราะก่อนหน้านั้น รัฐบาลได้ใช้จ่ายเงินกับ AIG มาก่อนแล้ว 3 ครั้ง คือให้กู้ไปแล้ว 6 หมื่นล้านเหรียญ และอีก 5 หมื่นล้านเพื่อซื้อ Toxic Assets และ อีก 4หมื่นล้านสำหรับซื้อหุ้นของบริษัทเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมที่รัฐบาลเข้าไปช่วยจึงต้องขอซื้อหุ้นมากซึ่งขณะนี้เปอร์เซ็นต์ที่รัฐบาลถือหุ้นในบริษัทนี้มีถึง 80% แล้ว หากรวมเงินอัดฉีดคราวนี้เข้าไปก็เป็นทั้งหมด 1 แสนแปดหมื่นล้าน มากกว่า มูลค่าเงินที่ AIG ขาดทุนทั้งปี กว่าแสนล้านเหรียญที่กล่าวมาในวรรคก่อน ถึงเกือบสองเท่าคือเป็นเงินกว่า 6-7 ล้านล้านบาทไทย
ทำไมต้องเขียนบทความนี้บนเว็บที่เกี่ยวกับปัญหาผิวพรรณและผิวหนังหรือครับ เพราะ เมื่อ 10 ปีที่แล้วผมยังจำได้ว่า เพื่อนของภรรยาที่เป็นหมอฟัน เธอมาเยี่ยมผมที่บ้านและพยายามที่จะขายประกัน AIA ให้ผม และบอกว่า AIA เป็นของบริษัท AIG บริษัทที่ดีที่สุดแข็งแกร่งที่สุดในโลกได้ เกรด AAA ต่างๆนาๆ แต่ผมก็ไม่เชื่อและได้ให้ความเห็นไปว่า การประกันชีวิตที่ดีที่สุดในนโยบายของผมคือการเป็นคนดี เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็น สามีที่ดีของภรรยา เป็น พ่อที่ดีของลูก เป็นพี่ที่ดีของน้องๆ เป็นน้องที่ดีของพี่ๆ เป็นอา เป็นน้าเป็นลุงที่ดีของหลานๆ และเป็นเจ้านายที่ดีของลูกน้อง เป็นหมอที่ดีของคนไข้และเป็นครูที่ดีของศิษย์ เพราะความดีเหล่านี้จะทำให้ไม่เกิดภาระผูกพันมาก ทุกคนหาเลี้ยงตัวเองได้ มีทัศนคติที่ดี สุขภาพดี ชีวิตดี เพื่อนคนนั้นไม่เข้าใจ
ผมจึงได้เสริมต่อไปว่า นอกจากนั้นผมเชื่อในการคิดประดิษฐ์แล้วจดสิทธิบัตรเพราะเป็นการเปลี่ยนปัญญาเป็นทรัพย์ ในทางที่ถูกต้อง ทั้งหมดคิดว่าเขาคงใม่เข้าใจ อะไรที่คิดว่าแน่นะ ไม่แน่เสมอไป 10ปีผ่านไป ผมเองพยายามเขียนบทความเพื่อกระตุ้นให้พวกเราคิดลึกในเรื่องต่างๆว่า อย่าไปตื่นเต้นนักกับพวกชอบโฆษณา พวกชอบทำตัวใหญ่ ทำตัวเป็นสถาบัน อ้างความเป็นครูอาจารย์ หรือความเป็นแพทย์เฉพาะทาง เก่งอย่างโน้นอย่างนี้ เพราะ ไม่จริงทั้งเพ เหมือนกับ AIG ที่ดูเหมือนจะเป็น GOD แต่ความเป็นจริงไม่ได้เรื่อง ขาดทุนยับนอกจากนั้นยังไม่พอ ยังมาดึงเอาคนทั่วโลกที่ไปลงทุนด้วยพังเป็นแถบ คนที่ไม่ได้ลงทุนด้วยก็พลอยติดร่างแหไปด้วยเพราะ เศรษฐกิจถดถอยจากพวกเท่ห์แต่กลวงเหล่านี้ ขอให้เชื่อด้วยเหตุผล คบคนดี คนที่มีเหตุผล และทำถูกทำนองคลองธรรม ส่วนพวกที่หลอกลวงเหล่านั้น พอถึงเวลาก็เจ๊งกันไปเอง ขออย่างเดียวพวกคุณๆ อย่าติดร่างแหไปด้วยก็แล้วกัน
การใช้สเตียรอยด์ก็เหมือนการไปยุ่งเกี่ยวกับ Subprimes เหมือนกัน พอติดแล้วค่ารักษาพยาบาลที่จะถอนยานั้นจะทำให้คุณเสียมากกว่าหลายเท่า พวกที่ขายยาสเตียรอยด์เหล่านี้ก็นึกว่าตนประสบความสำเร็จก็ขยายธุรกิจเอาขยายเอาเพราะคิดว่าประชาชนจะโง่ใช้ต่อไป ก็เหมือนพวกที่ขาย Junk Bonds กับ Toxic Assets ที่สุดพอมีคนทราบว่าไม่ได้เรื่อง พอเขาเลิกกัน เงินที่เขาลงทุนเหล่านั้นก็จะหายไปกับตาเอง ตอนนี้ก็เห็นบางคนตกหล่มลงไปแล้วเพราะเอาเงินที่ขายสเตียรอยด์ไปลงทุนโปรเจ็กต์ใหญ่โต ก็ขอให้โชคดีถ้าหลุดออกมาได้โดยไม่ต้องกวนกระเป๋าเงินของใครก็จะดี ถือว่าเก่งกว่า AIG ที่กำลังจะเน่านะ ขอให้กำลังใจ
<< บทความทั้งหมด